ทักษะและเทคนิคการสอน
ความหมายของทักษะการสอน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Skill หมายความว่า สามารถ เหมาะ ขยันหมั่นเพียร แข็งแรง กรมวิชาการให้ความหมายว่า ความสามารถ ความชำนาญและคล่องแคล่วว่องไว Carter V.Good ให้ความหมายว่า สิ่งที่บุคคลได้เรียนรู้ที่จะทำด้วยความง่าย แม่นยำถูกต้อง
พจนานุกรมทั้งในและต่างประเทศให้ความหมายได้คล้ายคลึงกัน
ทักษะ หมายถึง ความสามารถในการกระทำบางสิ่งบางอย่างได้ดีมีประสิทธิภาพ
คำว่าการสอน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Instrution มีความหมายไว้ต่างๆได้แก่
-การสอนเป็นการจัดกระบวนการให้ผู้เรียน
-การสอนเป็นการบอกกล่าวอธิบายแก่ผู้เรียน
-การสอนเป็นการแนะนำเกี่ยวกับความรู้ต่างๆให้กับผู้เรียน
-การสอนเป็นการบอกให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวเข้ากับสังคม
-การสอนเป็นการจัดให้ผู้เรียนนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
เมื่อนำคำสองคำมารวมกัน คือ ทักษะและการสอน คือ ความสามารถในการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถถ่ายทอดความรู้หรือประสบการณ์ต่างๆให้กับผู้เรียนได้
ความหมายของเทคนิคการสอน
หมายถึง กลวิธีต่างๆที่ใช้เสริมกระบวนการสอน ขั้นตอนการสอนหรือการกระทำต่างๆในการสอนให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น
การแบ่งทักษะการสอน
การแบ่งทักษะการสอนมีแนวคิดแตกต่างกันหลายแบบ ดีเวท ดับบลิว แอลเลน (Dewight W.Allen) จำแนกเป็น 18 ทักษะ
1.การสร้างความสัมพันธ์
2.การว่างขอบข่ายเนื้อหา
3.การสรุปผลลัพธ์
4.การมีพฤติกรรมเอาใจใส่ในตัวผู้เรียน
5.การหาผลย้อนกลับหรือข้อมูลย้อนกลับ
6.การเสริมกำลังใจ
7.การพูดทบทวนและย้ำเตือน
8.การควบคุมการมีส่วนร่วมในการเรียนของนักเรียน
9.การอธิบายและการใช้ตัวอย่าง
10.การตั้งคำถาม
11.การใช้คำถามขั้นสูง
12.การใช้คำถามชุด
13.การให้นักเรียนเงียบและการนำเสนอโดยการไม่ใช้คำพูด
14.การกระตุ้นให้นักเรียนตั้งคำถามเอง
15.การสื่อความหมายที่สมบูรณ์
16.การแปรเปลี่ยนตัวกระตุ้น
17.การบรรยาย
18.การบอกให้นักเรียนรู้ตัวว่าต้องตอบคำถาม
ความสำคัญของทักษะการสอน
การฝึกทักษะการสอนเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับครูมืออาชีพ ผู้สอนต้องมีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้เรียน ถ้าผู้เรียนไม่เข้าใจจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามที่ผู้สอนตั้งจุดมุ่งหมายไว้ การฝึกทักษะมีความสำคัญต่อการศึกษาอย่างยิ่ง
1.เป็นการส่งเสริมผู้ที่จะเป็นครูผู้สอนต้องมีทักษะการสอน
2.เป็นการส่งเสริมความชำนาญ คล่องแคล่วหรือเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติการสอน
3.ช่วยให้ผู้ฝึกมีความมั่นใจตนเองมากขึ้น เป็นการส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สอนด้วย
4.ช่วยไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการสอน
5.ช่วยให้งานสอนบรรลุตามจุดประสงค์โดยไม่เสียเวลา
6.ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และสามารถพัฒนาการสอนขึ้นไปอีก
7.ช่วยทำให้เกิดความชุ่มชื่น ชื่นชม ศรัทธาจากผู้เรียน
ทักษะการสอนขั้นพื้นฐาน
ทักษะการสอนขั้นพื้นฐาน หมายถึง ความสามรถ ความชำนาญในการสอน ซึ่งทักษะไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ถ้าไม่มีการฝึกฝน ทักษะการสอนมีหลายทักษะ ผู้ที่เป็นครูควรได้มีการฝึกฝนเพื่อเป็นพื้นฐานในการสอนต่อไป การที่ครูจะมีความสามารถในการใช้ทักษะให้ได้ผลนั้น ต้องมีการแยกฝึกทักษะแต่ละลักษณะให้ชำนาญเสียก่อน
ทักษะการนำเข้าสู่บทเรียน
การนำเข้าสู่บทเรียน เป็นขั้นการสอน หรืกิจกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อเริ่มต้นทำการสอน เพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้เรียนพร้อมติดตามบทเรียนต่อไป
จุดมุ่งหมาย
1.เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความพร้อมที่จะเรียน
2.เพื่อโยงประสบการณ์เดิมของผู้เรียนเข้ากับประสบการณ์ใหม่ที่จะสอน
3.เพื่อจัดบรรยากาศการเรียนให้น่าสนใจอยากเรียน ร่วมทำกิจกรรมที่ครูจัดขึ้น
4.เพื่อกำหนดขอบเขตของบทเรียน
5.เพื่อให้ผู้เรียนรู้ความหมาย รู้ความคิดรวบยอด และหลักการของบทเรียนใหม่
การใช้ทักษะการนำเข่าสู่บทเรียน
1.ก่อนเริ่มบทเรียนที่จะสอน
2.ก่อนเริ่มอธิบายและซักถาม
3.ก่อนตั้งคำถาม
4.ก่อนจะให้นักเรียนอธิบาย
5.ก่อนให้นักเรียนดูภาพยนตร์ โทรทัศน์ วีดีทัศน์
6.ก่อนทำกิจกรรมต่างๆที่ครูจัดขึ้น
เทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน
1.ใช้อุปกรณ์การสอน เช่น ของจริง รูปภาพ แผนที่ แผนภูมิ
2.ให้นักเรียนลองทำกิจกรรมบางอย่างที่สัมพันธ์กับบทเรียน
3.ใช้เล่านิทาน หรือเหตุการณ์ๆโยงมาสู่เรื่องที่จะสอน
4.ตั้งปัญหา ทายปัญหา เพื่อเร้าความสนใจ
5.สนทานซักถามเรื่องต่างๆเพื่อนำเข้าสู่บทเรียน
6.ทบทวนบทเรียนเดิมที่สัมพันธ์กับบทเรียนใหม่
7.แสดงละครหรือบทบาทสมมติ
8.ร้องเพลง เกี่ยวกับเรื่องที่จะสอน
9.สาธิต อาจสาธิตจากครูหรือให้นักเรียนสาธิตเองก็ได้
10.ให้นักเรียนฟังเสียงต่างๆ
ทักษะการใช้กิริยาวาจา ท่าทางในการสอน
การใช้กิริยาวาจา ท่าทางในการสอนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งของครู บุคลิกภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะเป็นครู บุคลิกภาพหมายรวมไปถึงการแสดงออกของครูทั้งด้านกิริยาวาจา และใจที่จะช่วยสอนให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจ ความสนใจ และยังมีความจำเป็นแบบฉบับของเยาวชน
เทคนิคการใช้กิริยาวาจา ท่าทางประกอบการสอนและบุคลิกภาพ
1.การเคลื่อนไหวการเปลี่ยนอริยาบถ
2.การใช้มือและแขน
3.การแสดงออกทางสีหน้า
4.การทรงตัวและการวางท่าทาง
5.การใช้น้ำเสียง
6.การแต่งกาย
ทักษะการอธิบาย
การอธิบายเป็นการสื่อความระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนให้มีความเข้าใจถูกต้องตรงกันอาจทำได้ 2 ทาง คือ
1.แบบนิรนัย คือการอธิบายโดยบอกกฎหรือหลักการแล้ว
2.แบบอุปนัย คือ การยกตัวอย่าง รายละเอียดย่อยๆ ที่เข้ากับความรู้และประสบการณ์การของนักเรียน
เทคนิคการอธิบาย
1.เวลาที่ใช้อธิบายไม่นานเกิดควร
2.ภาที่ใช้ง่ายแก่กันเข้าใจ
3.สื่อการสอน ตัวอย่าง ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเรื่องได้ง่ายขึ้น
4.ครอบคลุมใจความสำคัญได้ครบถ้วน
5.การอธิบายเริ่มจากเรื่องง่ายไปหาเรื่องยาก
6.ท่าทางในการอธิบายน่าสนใจ
7.ใช้แนวความคิดหรือถ้าเป็นการอธิบายของนักเรียนให้ใช้ความรู้ที่ได้จากการเรียนมา
8.มีการสรุปผลการอธิบายด้วย
ทักษะการเร้าความสนใจ
ประโยชน์ของการเร้าความสนใจ
1.ทำให้เด็กมีความพร้อมที่จะเรียนบทเรียนนั้น
2.ทำให้เด็กมีความสนใจในบทเรียนอย่างสม่ำเสมอ
3.ทำให้ครูมีความมั่นใจในการสอนเมื่อเด็กสนใจเรียน
เทคนิคการเร้าความสนใจ
1.การใช้สีหน้า ท่าทางประกอบการสอน
2.การใช้ถ้อยคำและน้ำเสียง
3.การเคลื่อนไหวของครู
4.การเน้นจุดสำคัญของเรื่องและการเว้นระยะการพูดหรือการอธิบาย
ทักษะการใช้คำถาม
ประเภทของคำถาม แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ 3 ประเภท
1.คำถามที่ใช้ความคิดพื้นฐาน เป็นคำถามง่ายๆ
1.1.คำถามที่ต้องตอบจากความรู้ที่เรียนมาแล้ว
1.2.คำถามที่ผู้ตอบต้องอาศัยประสาทสัมผัสของตน จากการสังเกตจากประสบการณ์
2.คำถามเพื่อคิดค้น เป็นคำตอบที่ผู้ตอบต้องใช้ขั้นตอนความคิดลึกซึ้งกว่าความคิดพื้นฐาน
3.คำถามที่ขยายความคิด เป็นคำถามที่ไม่กำหนดแนวคำตอบ
เทคนิคการใช้คำถาม
1.ถามด้วยความมั่นใจ
2.ถามอย่างกลมกลืน
3.ถามโดยใช้ภาษาที่พูดเข้าใจง่ายเหมาะสมกับระดับชั้นของผู้เรียน
4.การให้นักเรียนมีโอกาสตอบหลายคนในการสอน
5.การเลือกถามบางครั้งครูควรเลือกถามผู้เรียนบางคน
6.เสริมกำลังใจหรือให้ผลย้อนกลับ
7.ใช้คำถามหลายๆประเภทในการสอนแต่ละครั้ง
8.การใช้กิริยา ท่าทาง เสียงในการประกอบการถาม
9.การใช้คำถามรุก คือ การใช้คำถามต่อเนื่อง
ทักษะการใช้อุปกรณ์การสอน
อุปกรณ์การสอน ช่วยให้การเรียนรู้มีความหมายมากขึ้น สามารถเพิ่มรูปธรรมและความจริงต่อการเรียนรู้ได้มากขึ้น อุปกรณ์การสอนเป็นเครื่องกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความคิด มองเห็นความสัมพันธ์ของเรื่องราวหรือสิ่งที่เรียนรู้ได้ถูกต้องแม่นยำ
ประโยชน์ของอุปกรณ์การสอน
1.กระตุ้นผู้เรียนเกิดความสนใจการเรียนยิ่งขึ้น
2.ให้โอกาสผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
3.ทำให้ผู้เรียนเกิดแนวคิด และความเข้าใจถูกต้องและรวดเร็ว
4ทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง
5.ทำให้ผู้เรียนสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้นาน
6.ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์เดิมของผู้เรียน
เทคนิคการใช้อุปกรณ์การสอน
1.ใช้อุปกรณ์การสอนอย่างคล่องแคล่วโดยฝึกก่อนสอน
2.แสดงอุปกรณ์ให้เห็นชัดทั่วห้อง
3.ควรหาที่ตั้ง วาง แขวน อุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่
4.ควรใช้ไม้ยาวและปลายแหลมชี้แผนภูมิ แผนที่ กระดานดำ แทนการใช้นิ้วมือ
5.ควรนำอุปกรณ์มาวางเรียงลำดับก่อนถึงเวลาสอนเพื่อสะดวกในการหยิบใช้
6.มีการเตรียมตัวผู้เรียนล่วงหน้าก่อนการใช้อุปกรณ์
7.ควรเลือกเครื่องมือประกอบการใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสม
8.ใช้อุปกรณ์ให้คุ้มค่ากับที่ได้เตรียมมา
9.พยายามเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ร่วมกิจกรรม
10.คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้อุปกรณ์บางชนิด
ทักษะและเทคนิคการใช้กรดานดำ
1.ครูควรทำความสะอาดทุกครั้งที่เข้าสอน
2.ในการเขียนกระดานดำ ไม่ควรเขียนทีเดียวทั้งแผ่น ควรแบ่งครึ่งตามความเหมาะสม
3.ในการเขียนกระดานดำทุกครั้งควรเริ่มเขียนจากซ้ายมือไปขวามือ
4.ถ้ามีหัวเรื่อง ควรเขียนไว้ตรงกลางกระดานดำในส่วนที่แบ่งไว้และเขียนตัวหนังสือให้อ่าง่ายแล้วเป็นระเบียบ
5.ขณะเขียนต้องยืนห่างกระดานดำพอประมาณ แขนเหยียดตรง จับชอล์กทำมุมประมาณ 45 องศา
6.การเขียนตัวหนังสือต้องเป็นเส้นตรงไม่คดเคี้ยว
7.ถ้ามีข้อความสำคัญควรใช้ชอล์กขีดเส้นใต้
8.ถ้าต้องการอธิบายข้อความบนกรดานดำเราไม่ควรยืนบัง
9.ควรใช้ชอล์กสีเน้นข้อความใดโดยเฉพาะ
10.เขียนคำตอบของผู้เรียนบนกระดานดำ
11.การใช้เครื่องมือในการเขียนรูปทรงบนกระดานดำ ผู้สอนควรเตรียมอูปกรณ์ให้พร้อม
12.เปิดโอกาสให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการใช้กระดานดำด้วย
13.ถ้าจะขึ้นเรื่องใหม่ควรลบเรื่องเก่าให้หมดเสียก่อน
14.การลบกระดานดำควรลบให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้ชอล์กเข้าหน้าครู
ทักษะการเสริมกำลังใจ
การเสริมกำลังใจ หมายถึง การให้กำลังใจแก่ผู้อื่น เช่น การให้คำชมเชย หรือ แสดงพฤติกรรมที่ปรารถนาดีแก่ผู้เรียน
ประเภทของการเสริมกำลังใจ
1.การเสริมกำลังใจเกิดขึ้นจากความต้องการภายในของผู้เรียน
2.การเสริมกำลังใจภายนอก
2.1.การเสริมกำลังใจโดยให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการชมเชย
2.2.การเสริมกำลังใจด้วยการให้รางวัล และสัญลักษณ์ต่างๆ
2.3.การเสริมกำลังใจโดยให้ผู้เรียนเห็นความก้าวหน้า
หลักการเสริมกำลังใจ
1.นักเรียนได้รับการเสริมกำลังใจทันทีเมื่อแสดงพฤติกรรมสอดคล้องกับเป้าหมาย
2.ควรเลือกวิธีการเสริมกำลังใจที่เหมาะสมกับนักเรียนและวัย
3.วิธีการเสริมกำลังใจควรสอดคล้องกับพฤตกรรมที่นักเรียนแสดงออก
4.การลงโทษ คือการเสริมกำลังใจโดยการขจัดพฤติกรรมที่ไม่พึ่งปรารถนา
5.ครูควรระลึกอยู่เสมอว่าการเสริมกำลังใจบางอย่างอาจได้ผลกับนักเรียนได้แค่หนึ่งคน หรือกลุ่มเท่านั้น
เทคนิคการเสริมกำลังใจ
1.เสริมกำลังใจในจังหวะที่เหมาะสม
2.การเสริมกำลังใจย้อนหลัง
3.ไม่พูดเกินความจริง
4.ไม่ใช้คำพูดที่จำกัดในวงแคบใช้วิธีการเสริมกำลังใจหลายๆวิธี
5.ไม่ควรเสริมกำลังใจบางประเภทบ่อยเกินไป
6.ใช้วิธีเสริมกำลังใจต่างๆกันและในโอกาสต่างๆ
7.เสริมกำลังใจโดยการใช้คำพูดที่เหมาะสมกับวัย
8.เสริมกำลังใจในทางบวกมากกว่าในทางลบ
9.การเสริมกำลังใจไม่ควรมาจากครูอย่างเดียว
10.หาวิธีที่เสริมกำลังใจให้เหมาะสมกับลักษณะของผู้เรียน
ทักษะการสรุปบทเรียน
การสรุปบทเรียนเป็นการที่ผู้สอนพยายามให้นักเรียนรวบรวมความคิด ความเข้าใจของตน จากการเรียนรู้ที่ผ่านมา ว่าได้สาระสำคัญ หลักเกณฑ์ ข้อเท็จจริง หลักการ หรือแนวความคิดสำคัญ
รูปแบบการสรุปบทเรียน มักนิยมการทำ 2 รูปแบบ คือ
1.การสรุปด้านเนื้อหาสาระ คือการเชื่อมโยงความรู้ หรือเนื้อหาสาระที่สำคัญเข้าด้วยกัน
2.การสรุปด้านความคิดเห็น คือ การทำให้เห็นแนวความคิดเกี่ยวกับการเรียนว่าได้เรียนรู้และเกิดแนวคิดอะไร
เทคนิคการสรุปบทเรียน
1.สรุปโดยการอธิบายสั้นๆ ชัดเจน ทบทวนสาระสำคัญที่เรียนมา
2.สรุปโดยการใช้อุปกรณ์ หรือรูปภาพประกอบ
3.สรุปโดยการสนทนา ซักถาม
4.สรุปโดยการสร้างสถานการณ์
5.สรุปโดยนิทาน หรือการยกสุภาษิต
6.สรุปโดยการปฏิบัติ
OK ครับ พยายามทำงานชิ้นต่อไปตามกำหนดเวลานะครับ